สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสงขลา จำกัด
ประวัติ สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสงขลา จำกัด ในปี พ.ศ.2522 นายสมนึก อ่อนแก้ว ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นายสมณึก วัชระอาภากร ได้ย้ายมาปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลสงขลา ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 6และได้พบว่า ข้าราชการและลูกจ้างประจำใน รพ.สงขลา ในขณะนั้น เป็นหนี้เงินกู้ยืมกันเป็นจำนวนมาก และเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารทั่วไปได้ยาก จึงได้ริเริ่มจัดตั้ง กลุ่มออมทรัพย์ขึ้น เพื่อเป็นการออมเงิน และเป็นเงินหมุนเวียนกู้ยืมโดยใช้วิธีการและหลักการของสหกรณ์ออมทรัพย์ เรียกกันเป็นการภายในว่า
“สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลสงขลา”
โดยใช้บุคคลากรของโรงพยาบาลสงขลา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บัญชีและการเงิน ให้บริการในช่วงบ่ายของทุกวัน ณ อาคารอำนวยการชั้น 3 ตึกประธานราษฎร์นิกร ของโรงพยาบาลสงขลา ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองสงขลาในขณะนั้นต่อมา เมื่อประสบความสำเร็จและสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ จึงได้ขอจัดตั้งสหกรณ์และได้รับจดทะเบียนเป็น
“สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสงขลา จำกัด”
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2525 ตามคำแนะนำของนายแพทย์ประสิทธิ์ วณิชชานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลาในขณะนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์กับบุคคลากรที่รับราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปฏิบัติงานในจังหวัดสงขลาทั้งหมด ได้มีโอกาสสมัครเป็นสมาชิกได้ทุกคนต่อมาได้ย้ายสำนักงาน มาตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 อาคารสิรินธร ปัจจุบันเป็นอาคารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้จัดจ้างผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ครบทุกตำแหน่งงาน ในปี พ.ศ.2549 ได้ย้ายสำนักงานมายังอาคารเลขที่ 34-35 ถนนสามัคคีสุข 1 ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นสัญญาเช่าช่วงอาคารบนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ปัจจุบัน สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสงขลา จำกัด ได้ย้ายที่ทำการ มาตั้งอยู่ ณ อาคารเลขที่ 229 หมู่ที่ 6 ถนนลพบุรีราเมศวร์ ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นอาคาร 3 ชั้นซึ่งออกแบบเฉพาะ พร้อมบริเวณใช้สอย บนที่ดินเนื้อที่ 2 ไร่ ซึ่งสหกรณ์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ และมีสำนักงานสาขาอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลา ตำบลพะวง อีกหนึ่งแห่ง นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการ ณ หน่วยงานของสมาชิก โดยรถตู้ให้บริการเคลื่อนที่ ด้วยระบบออนไลน์ครบทุกบริการ ตามวันและเวลาที่สหกรณ์กำหนดและแจ้งล่วงหน้าสหกรณ์ให้บริการสมาชิกทางด้าน การรับฝากเงิน การให้เงินกู้แก่สมาชิก และจัดให้มีสวัสดิการสำหรับสมาชิก นอกจากนี้ยังเอื้อเฟื้อแก่ชุมชนและสังคมภายนอก ภายใต้พระราชบัญญัติสหกรณ์ และหลักแนวทางของการสหกรณ์สากล สหกรณ์ บริหารโดยปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ยึดหลักธรรมาภิบาล การให้ความสำคัญกับระบบควบคุมภายในและระบบบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อให้สหกรณ์มีความมั่นคง สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดี อันจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมอย่างยั่งยืน..